ค้นหา

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

การใช้รถแก๊ส LPG ระบบ Mixer


1. การใช้รถแก๊ส LPG ระบบ Mixer
ระบบมิกเซอร์นี้จะมีการลดอากาศที่จะนำไปใช้ในการผสมกับเชื้อเพลิงเพื่อการเผาไหม้ ลงจากเดิมไปประมาณ 60-70 % ทำให้การใช้ระบบน้ำมันในภาพรวมประสิทธิภาพจะแย่ลงกว่าเดิม การสตาร์ทเครื่องยนต์อาจจะติดยากขึ้น (มากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพเครื่องยนต์)
1.1 สำหรับเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด
การใช้รถเมื่อเครื่องยนต์เย็นควรสตาร์ทรถด้วยน้ำมันวอร์มจนเครื่องยนต์ร้อนขึ้นประมาณ 40-50 องศา จึงเปลี่ยนมาใช้แก๊ส
1.1.1 กรณีใช้สวิทช์อัตโนมัติทั้งเครื่องเย็นหรือร้อนสตาร์ททุกครั้งจะเป็นน้ำมันแล้วจะเปลี่ยนเป็นแก็สโดยอัตโนมัติฉะนั้นเมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วด้วยน้ำมันให้กดคันเร่งเร่งรอบให้ได้ประมาณ 2,000-2,500 รอบ ระบบจะเปลี่ยนเป็นแก๊สแล้วค่อยออกรถ ถ้าเครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ขับช้าๆ เพื่อวอร์มเครื่องให้ร้อนประมาณ 40-50 องศา จึงจะใช้งานตามปกติ
1.1.2 การเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิงกรณีใช้สวิทช์ธรรมดาที่ต้องเลือกใช้ระบบเองโดยการกด/โยกสวิทช์เลือกระบบแบ่งเป็น 2 กรณี คือ ขณะจอด(หยุด) และขณะวิ่ง
1.1.2.1 ขณะจอด(หยุด) เมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทติดแล้วให้กดคันเร่งแช่ไว้ให้รอบเครื่องยนต์อยู่ประมาณ 2,000-2,500 รอบ จึงกด/โยกสวิทช์เปลี่ยนระบบแล้วเร่งขึ้นถึง 3,000 รอบ จึงค่อยๆปล่อยคันเร่งให้รอบลดลงถึงรอบเดินเบาปกติแล้วค่อยออกรถ
1.1.2.2 ขณะวิ่งเมื่อต้องการจะเปลี่ยนระบบ ความเร็วรถต้องไม่ต่ำกว่า 50 กม./ชม. สภาพการจราจรต้องไม่ติดขัด รถข้างหน้าสามารถเคลื่อนไปได้โดยไม่ติดไม่ต่ำกว่า 500 ม. ให้ถอนคันเร่งแล้วกด/โยก สวิทช์เปลี่ยนระบบ (2 จังหวะ) สำหรับเปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแก๊ส นับเวลา (ในใจ) 2-3 วินาที รอแก๊สมาแล้วค่อยๆกดคันเร่งขึ้นไปใช้งานตามปกติ สำหรับการเปลี่ยนจากแก๊สเป็นน้ำมันให้นับเวลา (ในใจ) 3-7 วินาที เพื่อรอน้ำมันมา (ช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภาพเครื่องยนต์ของรถแต่ละคัน) แล้วค่อยๆ กดคันเร่งขึ้นไปใช้งานตามปกติ
1.2 สำรับเครื่องยนต์ระบบคาร์บิวเรเตอร์
การใช้รถเมื่อเครื่องยนต์เย็นควรสตาร์ทรถด้วยน้ำมันวอร์มจนเครื่องร้อนขึ้นประมาณ 40-50 องศา จึงเปลี่ยนมาใช้แก๊ส สำรับรถคาร์บิวฯ ไม่สามารถใช้สวิทช์อัตโนมัติได้
ฉะนั้นการเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิงสำหรับรถคาร์บิวฯ ใช้สวิทช์ธรรมดากด/โยกได้อย่างเดียวแต่สามารถเปลี่ยนระบบได้ 2 กรณี เช่นเดียวกับรถเครื่องหัวฉีด ซึ่งทำได้ทั้งขณะจอด(หยุด) และขณะวิ่ง
1.2.1 ขณะจอด (หยุด) เมื่อเครื่องเย็นให้สตาร์ทด้วยน้ำมัน เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วให้วอร์มเครื่องจนได้ความร้อนประมาณ 40 องศา - 50 องศา แล้วกดสวิทช์ไปอยู่ตรงกลาง (OFF) เพื่อหยุดการจ่ายน้ำมัน กดคันเร่งแช่ให้รอบอยู่ประมาณ 2,000-2,500 รอบ
เมื่อเครื่องยนต์สะดุด น้ำมันในคาร์บิวจะหมด ให้กด/โยกสวิทช์ไปใช้แก๊ส แล้วกดคันเร่งต่อให้รอบถึง 3,000 รอบ จึงปล่อยคันเร่งให้รอบลดลง จนถึงรอบเดินเบาปกติ แล้วค่อยออกรถ
เมื่อเครื่องร้อนและน้ำมันไม่มีในคาร์บิว สามารถสตาร์ทแก๊สได้เลย

หมายเหตุ สำหรับเครื่องเย็นและไม่มีน้ำมันในคาร์บิว ถ้าใช้หม้อต้มรุ่นพิเศษที่มีโช้กอัตโนมัติ สามารถสตาร์ทแก๊สได้เลย โดยกดปุ่มสวิทช์โช้กค้างไว้ตอนสตาร์ท เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วจึงปล่อยปุ่มสวิทช์โช้ก กรณีนี้หม้อต้มยังเย็นอยู่จึงควรใช้งานแบบช้าๆ (ไม่ควรออกรถอย่างรวดเร็วทันที) เพื่อเป็นการวอร์มเครื่องยนต์และรักษาหม้อต้ม จนความร้อนเครื่องยนต์ประมาณ 50 องศา จึงใช้งานตามปกติ
1.2.2 ขณะวิ่งเมื่อต้องการเปลี่ยนระบบ ความเร็วรถต้องไม่ต่ำกว่า 50 กม./ชม. สภาพการจราจรต้องไม่ติดขัด รถข้างหน้าสามารถเคลื่อนไปได้โดยไม่ติด ไม่ต่ำกว่า 500 ม.
ขณะใช้น้ำมันจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส ให้กด/โยกสวิทช์มาอยู่ตรงกลาง (OFF) เพื่อหยุดน้ำมันในคาร์บิวเรเตอร์ วิ่งไปเรื่อยๆด้วยความเร็วพอเหมาะเมื่อเครื่องยนต์สะดุด น้ำมันจวนจะหมด จึงกด/โยกสวิทช์ไปใช้แก๊สแล้วขับต่อไปได้เลย
ขณะใช้แก๊สจะเปลี่ยนเป็นน้ำมัน ให้ถอนคันเร่งกด/โยกสวิทช์ไปที่น้ำมัน นับเวลา (ในใจ) 3-7 วินาที รอน้ำมันเข้าคาร์บิว (เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์/คาร์บิวของแต่ละคัน) จึงค่อยๆกดคันเร่งดู ถ้าน้ำมันมาแล้วรถจะวิ่งใช้งานได้ตามปกติ

ไม่มีความคิดเห็น: